Featured News
Posts List
Posts Slider
Health
-
อาการ โควิด-19 โอมิครอนกลายพันธุ์
โควิด-19 ถึงแม้ความรุนแรงของอาการจะน้อยลง แต่โอกาศในการแพร่เชื้อสูงขึ้น ดังนั้น หากมีอาการเหล่านี้ ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อเข้ากระบวนการรักษาและแยกกักตัวจากผู้อื่น เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสามารถป้องกันได้ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร
ในปัจจุบันโรคโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลงจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ส่งผลให้อาการที่เกิดขึ้นหลังได้รับเชื้อแตกต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ โดยอาการโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สามารถสังเกตได้จาก
อาการของผู้ที่ติดโควิด
– ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เมื่อยตัว
– เสียงเปลี่ยนและมีเสมหะ
– มีไข้สูง 39 องศาเซลเซียส
– รู้สึกหนาว แต่เหงื่อออก
– มีน้ำมูกคัดจมูก
– คอแห้ง รู้สึกคันคอและไอ
– เจ็บคอ กลืนน้ำลายแล้วเหมือนมีมีดบาด
– เหนื่อย อ่อนเพลียกว่าปกติ นอนซมไม่อยากทำอะไร
ต้นกําเนิดของไวรัส
โรคโควิด 19 คือโรคติดต่อ ซึ่งเกิดจากไวรัสโคโรนาชนิดที่มีการค้นพบล่าสุด ไวรัสชนิดนี้มีการระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนในเดือนธันวาคมปี2019 ขณะนี้โรคโควิด19 มีการระบาดใหญ่ไปทั่ว ส่งผลกระทบแก่หลายประเทศทั่วโลก
การแพร่เชื้อ
1.โรคโควิดสามารถแพร่จากอีกคนสู่อีกคนโดยแพร่ผ่านทางฝอยละอองจากจมูกหรือปากซึ่งขับออกมาเมื่อผู้ป่วยไอหรือจาม แล้วคนรอบข้างสูดหรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปจากผู้ป่วยหรือจากการเอามือไปจับพื้นที่มีฝอยละอองเหล่านั้นแล้วมาจับตามใบหน้า
2.ระยะเวลานับจากการติดเชื้อและการแสดงอาการ (ระยะฟักตัว) มีตั้งแต่1-14 วัน และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 วัน เกิน 97% ของผู้ป่วยเริ่มมีอาการภายใน 14 วัน
กลุ่มเสี่ยง
– กลุ่มเสี่ยงต่ำ งานวิจัยระบุว่า เด็กและคนหนุ่มสาวติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ อย่างไรก็ตาม เด็กมักจะไม่มีอาการรุนแรง
– กลุ่มเสี่ยงสูง ความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้นตามอายุและในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังและโรคมะเร็ง
การรักษาโควิด
ระบบการรักษา
สิทธิบัตรทอง
– หากอาการไม่รุนแรง ให้รับยาจำเป็นได้ที่ร้านยาในโครงการ เจอ แจก จบ ใกล้บ้าน โดยร้านยาจะให้แอดไลน์เพื่อส่งผลตรวจ ATK คู่กับบัตรประชาชน พร้อมซักประวัติข้อมูลคนไข้ แนะนำใหคำปรึกษาการใช้ยา ทั้งนี้ ผู้ป่วยไม่ควรมารับยาเอง ควรให้ญาติหรือเพื่อนมารับยาให้แทน ตัวผู้ป่วยให้กักตัว 10 วัน
– หากอาการรุนแรง (ผู้ป่วยสีเหลือง/แดง) ให้ไปที่ รพ. ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ สำหรับกรณีเป็นกลุ่มเสี่ยง กลุ่ม 608 รับการรักษาตามดุลพินิจแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และถ้าเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิรักษาในโรงพยาบาลได้ทุกที่ที่ใกล้ที่สุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สิทธิประกันสังคม
– หากอาการไม่รุนแรง สามารถรักษาตามแนวทาง “เจอ-แจก-จบ” ณ โรงพยาบาลในสิทธิประกันสังคม และสถานพยาบาลรัฐ/เอกชนที่ร่วมให้บริการทุกแห่ง และคลินิก/ร้านยา ที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมกักตัว 10 วัน
– หากมีอาการรุนแรง (สีเหลือง/แดง) หากอาการป่วยแย่ลง หรือจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ให้เข้ารับรักษาตามดุลพินิจของแพทย์ ณ โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม และสถานพยาบาลรัฐ/เอกชนที่ร่วมให้บริการทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus ณ สถานพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด ได้ทุกแห่งทั้งสังกัดรัฐและเอกชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ที่มา
ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ pordosolstyle.com
Economy
-
แกะงบ 7-Eleven ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่
แกะงบ 7-Eleven ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ คนเข้าร้านเพิ่มขึ้นแต่ยอดขายต่อบิลลดลง
7-Eleven นับเป็นร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ชิดกับผู้คน ด้วยสาขาที่มากถึง 1.3 หมื่นสาขาทั่วประเทศ ทำให้ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่มักจะสะท้อนกับกำลังซื้อรวมถึงทิศทางของเศรษฐกิจไทยได้ ทั้งนี้จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่า 7-Eleven มีการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ยอดผู้ใช้บริการต่อสาขาเพิ่มขึ้น ส่วนยอดขายต่อบิลปรับตัวลดลงเล็กน้อย
โดยในรายงานงบการเงินไตรมาสที่ 3 ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL รายงานว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 90,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 76,612 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้าน สาขาเดิมเพิ่มขึ้น 22.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 82 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 928 คน
ทั้งนี้ลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากการยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่ควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อประกอบกับรายได้จากการขายสินค้าส่วนเพิ่มผ่านกลยุทธ์ O2O อาทิ 7-Eleven Delivery, All Online และ 24Shopping ซึ่งยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาวะปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วนสูงกว่า 10% ของรายได้จากการขายสินค้ารวม ในไตรมาส 3 ปี 2565 สัดส่วนของรายได้จากการขาย 74.1% มาจากสินค้ากลุ่มอาหาร และ 25.9% มาจากสินค้าอุปโภค
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มอาหารเพิ่มขึ้น จากการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มสินค้า เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ไตรมาส 3 ปี 2565 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีกำไรขั้นต้นจำนวน 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% จากไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน
โดยมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น 27.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2564 ที่อัตราส่วน 27.4% สาเหตุหลักมาจากการปรับกลยุทธ์ด้านสินค้าโดยยังคงเน้นเรื่องความต้องการและพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงให้ความสำคัญต่อการบริหารอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้า เพื่อให้สามารถดึงดูดลูกค้าและสามารถสร้างยอดขายและกำไรส่วนเพิ่มต่อธุรกิจภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : pordosolstyle.com
Latest News
ฤดูกาลหน้าอาจเป็นปีสุดท้ายระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ คล็อปป์
ท่ามกลางข่าวการปลดผู้จัดก...
เกาหลีใต้ พบกับ อิตาลี ในรอบรองชนะเลิศ FIFA U-20 World Cup
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา...